ยุคที่การพูดถึงศัลยกรรมเป็นเรื่องต้องห้ามกำลังจะหมดไป ปี 2025 ผู้คนเปิดเผยมากขึ้นว่าผ่านการปรับแต่งใบหน้าหรือการดูแลผิวด้วยวิธีทางการแพทย์ เพราะทุกคนเริ่มเข้าใจว่าแค่สกินแคร์อย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงใบหน้าในทุกมิติ ความงามยุคนี้คือการยอมรับความจริงและเลือกสิ่งที่ดีที่สุด
การดูแลผิวในระยะยาวไม่ได้เน้นแค่การบำรุงผิวภายนอกอีกต่อไป แต่เน้นการ “สะสม” คอลลาเจนตั้งแต่เนิ่นๆ ทั้งจากการทำทรีตเมนต์ที่กระตุ้นคอลลาเจน เช่น Morpheus8, Emface หรือการใช้สกินแคร์ที่มีเปปไทด์ เพื่อเตรียมผิวให้แข็งแรงในอนาคตดให้ตัวเอง
อีกหนึ่งนวัตกรรมที่กำลังเป็นที่พูดถึงคือ PDRN (Polydeoxyribonucleotide) สารสกัดจาก DNA แซลมอน ซึ่งช่วยฟื้นฟูผิวให้ยืดหยุ่น เพิ่มความชุ่มชื้น และลดเลือนริ้วรอย โดยแบรนด์ที่กำลังเป็นที่จับตามองคือ REJURAN ที่นำสารตัวนี้มาใช้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอย่างเต็มรูปแบบ
ปีนี้ไม่ใช่แค่ผิวหน้าเท่านั้นที่ได้รับการดูแล ผิวกายก็ได้รับความสนใจมากขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะจากแบรนด์ใหม่ๆ ที่เน้นผลิตภัณฑ์ส่วนผสมจากธรรมชาติ กลิ่นหอมละมุน และแพ็กเกจจิ้งสวยงาม ทำให้การอาบน้ำและทาผิวกลายเป็นช่วงเวลาผ่อนคลายที่หลายคนตั้งตารอ
กันแดดในปี 2025 จะไม่ใช่แค่ปกป้องผิวจากแสงแดด แต่ยังต้องเนื้อสัมผัสดี ใช้งานง่าย และมีเฉดสีที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีผิวเข้ม นอกจากนี้ยังมีสูตรไฮบริดที่ผสานการกันแดดและการปกปิดไว้ในหลอดเดียว
แม้ Exosome หรืออนุภาคนาโนจากเซลล์มนุษย์จะดูน่าตื่นเต้น แต่ยังคงมีข้อถกเถียงเรื่องความปลอดภัยและจริยธรรม เนื่องจากยังไม่มีการรับรองจาก FDA และนักวิจัยยังต้องการหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือมากกว่านี้ ก่อนที่จะนำมาใช้ในวงกว้าง
เทคโนโลยี AI จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในวงการความงาม เช่น การวิเคราะห์ผิวเฉพาะบุคคลแบบละเอียด ทั้งความชุ่มชื้น ความยืดหยุ่น ไปจนถึงการติดตามผลลัพธ์ของการดูแลผิวในระยะยาว ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้เลือกผลิตภัณฑ์ได้ตรงจุดและเห็นผลชัดเจนยิ่งขึ้น
ปี 2025 จะเป็นปีที่วงการความงามก้าวหน้าแบบก้าวกระโดด ทั้งด้านนวัตกรรม การยอมรับ และความเข้าใจที่ลึกซึ้งขึ้น หากคุณเป็นคนรักสกินแคร์ หรือสายบิวตี้ ต้องไม่พลาดเทรนด์เหล่านี้