.....5 แนวคิดในการหาสินค้ามาขายให้ปังรัวๆ ในปี 2018......

.....5 แนวคิดในการหาสินค้ามาขายให้ปังรัวๆ ในปี 2018......

คำถามที่แม่ค้าพ่อค้าออนไลน์ (มือใหม่) คิดกันจนหัวแตก เทรนมันมาแล้วจริงๆ สำหรับการขายของออนไลน์  ใครมีพื้นที่ไปจับจองพื้นที่ก่อนเป็นคนแรกๆ เมื่อ2 3 4 5 ปีก่อน รวยเป็นร้อยๆ ล้านไปหมดแล้ว แต่หากใครกำลังเพิ่งเข้ามา หรือกำลังเริ่มสนใจ กำลังคิดๆอยู่ ขอแสดงความยินดีด้วย เพราะแปลว่าก็ยังไม่สายที่จะมาจับจองพื้นที่ ‘ฟรี’บนอินเตอเนตแห่งนี้ค่ะ

 คิดถึง Big piture อธิบายง่ายๆ ในระบบศรษฐกิจเนี่ย เริ่มแรกเลยก็จะมีผู้สร้าง คือโรงงาน และหรือคนต้นคิดและไปจ้างโรงงาน เช่น โรงงานที่เมืองจีน รับ oem หรือผลิตและมีคู่ค้าหรือ sumsung  apple ที่เป็นคนต้นคิดออกแบบทุกอย่างและไปจ้าง oem ทำ  และสองคือคนกลางที่นำสินค้ามาขาย เช่น ห้าง Central Robinson tesco 7/11 watsons tops ยี่ปัวซาปั้ว ตัวแทน เอเย่น ตัวแทนประกันชีวิต ตัวแทนแบรนด์ซึ่งเดียวนี้ก็ออกมาล้นตลาดเมืองไทย หรือคำว่าดรอปชิป ก็ใช่คนกลาง คนกลางก็มีหลายขั้นหลายต่อ เช่นตัวกลางผู้ค้าส่งเจ้าใหญ่ที่รับมาจากโรงงานโดยตรง หรือตัวกลางคนที่รับมาจากผู้ค่าส่งมาขายให้เราอีกที

 คือคุณเห็นไหม เส้นทางของสินค้ากว่าจะมาถึงมือ end user คือผู้บริโภคหรือผู้ใช้ เพระงั้นหากเรามองจริงๆจะเห็นเชนหลักๆ แค่สองเชนสองเส้นคือ ผู้ผลิตและพ่อค้าคนกลางที่เชื่อมต่อผู้ผลิตและผู้บริโภคเข้าด้วยกันหรือ เป็นสื่อกลางให้คนทั้งสองมาประจบตอบสนองความต้องการของกันและกัน เจ้าของได้เงินแลกกับการยื่นให้สินค้าที่ผู้บริโภคต้องการ

ทีนี้ หากเราจะเป็นผู้ผลิตและสื่อกลางในคนเดียวกันเช่น พ่อค้าขายกับข้าวในตลาด พ่อค้าหมูปิ้ง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการค้าขายขนาดเล็กมากๆ ซึ่งในที่นี่ ดิฉันตัดไป และในที่นี่ ก็ตัดการเป็นเจ้าของโรงงานหรือผู้ผลิตผู้คิดค้นนวัตกรรม เพราะเริ่มต้นเงินเราไม่หนาขนาดนั้น อย่างเราเป็นได้ง่ายที่สุดคือ supplier หรือผู้จัดหา พ่อค้าคนกลาง พ่อค้าออนไลน์ ตัวแทน และหรือเอเย่น



1.จากประสบการณ์สอนว่า จะค้าขายไรให้ค้าในสิ่งที่คนรู้จักหรือคนนิยม หรือสินค้าที่เป็นกระแส สินค้าที่ผู้คนรู้จักแล้ว มันจะขายง่าย ไม่ต้องไปโปรโมทเยอะ หรือขายสินค้าแปลกใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในตลาด และคุณวิเคราะห์แล้วว่า สินค้านั้นๆ จะต้องตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งได้  ขายสินค้าไรที่ผู้คนนิยมแล้ว ก็อย่างเช่นตัวอย่างง่ายๆ รถกระบะอีซูซุที่แถวต่างจังหวัดบางพื้นที่จะขายดีมากกว่ากระบะยี่ห้อมาสด้า (สมมุตินะสมมุติ) พ่อค้าหรือ Showroom รถอีซูซุก็จะมีลูกค้าเข้ามาสอบถามและขายง่ายกว่ารถกระบะยี่ห้ออื่น เงินหมุนไวกว่า  หรือขายรถเก๋งฮอนด้าย่อมขายง่ายกว่าขายเก๋งยี่ห้อ MG (อีกเหมือนกัน สมมุติว่าฮอนด้าคนนิยมกว่า MG)  คือขายอะไรที่คนรู้จัก คนนิยมอยู่แล้ว เป็นดีลเลอร์ขายมอเตอร์ไซค์ฮอนด้าย่อมจะขายง่ายมาขายดีกว่ายี่ห้อยามาฮ่า อย่างนี้เป็นต้น คือให้ค้นหาให้ได้ว่าสินค้าชนิดเดียวกันเนี่ย ยี่ห้อไรขายดีที่สุด หรือให้ค้นให้ได้ว่า สินค้าไรที่ผู้คนนิยมชมชอบ

2. จะบอกว่า ไม่มีใครห้ามหรือขอให้คุณเซ็นสัญญาให้ขายสินค้าชนิดเดียวนะ หน้าเฟสคุณมันโพสฟรีนะ มาร์คเขาไม่ได้ห้ามหรือจำกัดการโพสของคุณนะ เจ้าของแบรนด์ก็ไม่ได้ห้ามให้คุณขายสินค้าของเขาแบรนด์เดียวนะ (หากเจ้าของแบรนด์ไหนใจแคบห้ามคุณขายของยี่ห้ออื่น คุณก็ควรพิจารณา!)  อย่าขายสินค้าอย่างเดียวแบบเดียวหรือชิ้นเดียว คืออย่าไปหวัง อย่าเอาความฝันความหวังทั้งชีวิตไปใส่ในโพรดัคใดโพรดัคหนึ่ง หรือแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งแบรนด์เดียว คือมันเหมือนคุณไปเฝ้าหวังจะอยู่กับแฟนคุณคนนี้คนเดียวไปตลอดชีวิตนะแหละ ในความเป็นจริงมันไม่ได้ไง วันทั้งวันอย่าโพสขายแต่สินค้าแบบเดียว หนึ่งคือเพื่อนกลุ่มลูกค้าคุณจะเบื่อ คือคุณเข้าใจไหมว่าหาก เพื่อนคนนี้เขาอาจะไม่สนใจเครื่องสำอาง ครีมหน้า แต่พอคุณโพสขาย ครีมรักแร้ขาว อือ เขาสนใจเพราะเขามีปัญหาเรื่องรักแร้ดำ คุณพอเข้าใจไหม เพราะความต้องการของแต่ละคนไม่เหมือนกันไง เพื่อนกลุ่มลูกค้าของคุณบางคนสนใจอาหารลดน้ำหนัก ยาลดน้ำหนัก บางคนสนใจหน้า สนใจชอบลองครีมใหม่ๆ บางคนสนใจแฟชั่นเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เพราะงั้นขายสินค้าให้มันหลากหลายเพื่อครอบคลุมความต้องการของฐานของลูกค้าของคุณ เพื่อในอนาคตคุณจะจับทางได้ว่าอะไรที่คุณควรทุ่ม คุณดูเจ้เล้ง ในร้านเขามิสินค้าเป็นหมื่นๆ ชนิด เขาได้กำไรชิ้นละสองสามร้อยสี่ห้าร้อยวันๆ ขายได้เป็นหมื่นๆ ชิ้น นั่นคือทำให้เขารวย! เราเดินเข้าไปร้านเจ้เล้ง ไม่หยิบครีม ก็หยิบน้ำหอม ไม่เอาอะไรเลยก็หยิบขนมสักสองสามกล่อง เห็นไหม? ดูอย่าง 7/11 watsons boots tops คือทำตัวให้เป็น modern trade เคลื่อนที่ โมเดิร์นเทรดออนไลน์ ดูก่อน ขายให้มากที่สุด ให้หลากหลายที่สุดในลิมิตที่คุณจะทำได้ด้วย

3. อย่าใช้เงินลงทุนกับสินค้าใดสินค้าหนึ่งเยอะ คือให้ทดลองขายสินค้าที่ ‘คุณคิดว่าขายได้ขายดี’ เพื่อทดสอบตลาด เพื่อทดสอบกลุ่มฐานลูกค้าของคุณเอง  ลงทุนให้น้อยในยุคนี้ เป็นยุคของพ่อค้าออนไลน์จริงๆ คือทุกอย่างมันเอื้อให้คุณทดสอบตลาด คุณเอาสินค้าไหนก็ได้ที่คุณสนใจ คุณศึกษามาแล้ว ไปโพสในพื้นที่ของคุณ ไม่ว่าจะเป็น facebook IG Line เวบ และหากขายได้คุณค่อยซื้อ หรือจ่ายเงิน หรือทุ่มเงินสต๊อกของ หากนั่นมันทำให้คุณมีกำไรมากกว่า

4. ขายสินค้าหรือสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณชอบคุณสนใจคุณคลั่งไคล้คุณรู้จักมันเป็นอย่างดีหรือขายสิ่งที่คุณค้นคว้ามา หรือคุณเข้าใจมัน เพราะคุณจะอินกับสินค้ารู้ลึกรู้จริงในสินค้านั้นๆ ยิ่งโดยเฉพาะหากเป็นสิ่งที่คุณชอบ คุณจะไม่เบื่อมันง่ายๆ 


5. สำหรับความคิดส่วนตัว หากเป็นแม่ค้ามือใหม่ ให้เลี่ยงขายสินค้าที่มันมีไซค์หรือมีหลากหลายสีให้เลือก เช่นรองเท้า โดยเฉพาะร้องเท้าส้นสูงของผู้หญิง! กางเกง (เสื้อผู้ชายนะยังพอได้ กระเป๋าก็ยังพอได้ เสื้อผ้าเด็กก็ยังพอได้ เพราะปกติผู้ปกครองมักจะชอบซื้อชุดที่ใส่หลวมๆหน่อยให้ลูก) ประมาณว่าเออมีคนต้องการละรองเท้าไนกี้สีนี้ลายนี้ แต่เบอร์นี้เราหมด ได้ขายไหม ก็ไม่ได้ขาย ลูกค้าแ_งก็ไม่ร อ ไปหาซื้อร้านอื่น คือกว่าจะลงตัว  หรือว่า ลูกค้าผู้หญิงชอบดีไซค์เสื้อแบบนี้ อยากได้สีนี้ และไซค์นี้ มันยุ่งยากไง สีนี้ยังไม่พอ ต้องหาไซค์นี้ได้เป๊ะๆด้วย ลุกค้าถึงจะยอมโอนเงินเข้าบัญชีเรา คือหากคุณมีทุนหนาสต็อคได้ละ หรือเป็นพ่อค้าส่งแล้ว ค่อยหาสินค้าที่มีไซค์มีหลายสีมาเล่นก็ยังไม่สาย เราเป็นแม่ค้ามือใหม่ ต้องพยามอย่าขายอะไรที่มันยุ่งยากซับซ้อน 

        แถมนิดหนึ่ง  ให้ขายสินค้า (ออนไลน์) ที่หาได้ยากในตลาดทั่วไป  ไม่พบในเทสโก้  และอย่าขายของที่ยุ่งยากกับการแพคหรืออ่อนไหวกับการแตก ของหมดอายุเร็ว มีปัญหาการคืน อย่าขายของชิ้นใหญ่เกิน อย่าขายอะไรที่น้ำหนักมาก เพราะคุณมือใหม่ไง ให้ขายไรที่คุณเอาติดรถไปได้ คุณไปส่งเองได้ คุณแพคเองได้

       สรุปคือ  เริ่มจากขายสินค้าที่คุณสนใจ ถนัด ชอบ  ค้นคว้ามา หากคุณไม่ถนัดอะไรเลย หรือมีถนัดบางอย่างแต่คุณมองเห็นสินค้าที่เป็นที่นิยม  ให้ขายของที่เป็นที่นิยมอยู่แล้ว สินค้าชนิดเดียวกันให้เลือกขายยี่ห้อหรือแบรนด์ที่เป็นที่นิยมมากที่สุด หรือแบรนด์ที่ตลาดรู้จัก อย่าขายสินค้าอย่างเดียว อย่าขายสินค้ายี่ห้อเดียวแบรนด์เดียว ขายของให้หลากหลาย และสุดท้ายอย่าลงทุนหรือเอาเงินไปจมกับสินค้าตัวเดียวแบรนด์ๆเดียว เอาง่ายๆอย่าลงทุนเยอะ ให้เลือกขายสินค้าที่ไม่ต้องลงทุนหรือลงทุนน้อยที่สุดก่อน เพื่อที่คุณจะได้ทดสอบกลุ่มตลาดของคุณ

       คือหากคุณขายเก่งและจับทางได้ละว่าสินค้าไหนกลุ่มไหนตัวไหนขายดี แล้วคุณค่อยมาทุ่มกับสินค้าแบบเดียวชนิดเดียวอย่างใดอย่างหนึ่งก็ไม่สาย เช่น จะตั้งตัวเป็นเจ้าของแบรนด์ หรือจะเป็นพ่อค้าส่งหรือเป็นดีลเลอร์รายใหญ่ แต่ในการเริ่มเป็นพ่อค้าขั้นต้นคือ คุณต้องหาทางก่อนไง ซึ่งไม่มีใครมาสอนคุณได้หรอกว่าควรขายอะไรโดยเฉพาะเดี่ยวนี้มีแต่ (คนตั้งตัวเป็น)ครู มีโค้ชออกมาสอนกันเต็มเฟสในเรื่องขายยังไงให้รวย เทคนิคการขาย เทคนิคการตลาดโน่นนั่นนี่ แต่ก็ยังไม่ใครมาบอกโต้งๆว่าให้ขายสินค้าแบบนั้นแบบนี้สิ คือท้ายที่สุด มันไม่มีใครมาบอกคุณได้ว่าคุณควรขายอะไรที่จะให้ปังให้รวย เพราะบุคลิกความชอบความสนใจความคลั่งไคล้ของแต่และคนมันไม่เหมือนกัน กลุ่มเพื่อนหรือฐานลูกค้าของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน กลุ่มล่างกลุ่มกลางหรือกลุ่มลูกค้าฐานบน คือหากคุณและเพื่อนของคุณเป็นคนกลุ่มล่างๆและจะให้คุณมาปังกับการขายสินค้าลักซัวรี่มันก็คงไม่ปัง ถูกไหม?


        และท้ายที่สุด คุณอาจจะค้นพบว่าสินค้าที่ขายดีหรือขายปังอาจจะไม่ใช่ประเภทของสินค้าที่คุณชอบหรืออาจจะไม่ใช่สิ่งที่คุณสนใจ ท้ายที่สุด อะไรที่คุณเห็นว่าดีเห็นว่าปัง อาจจะไม่ใช่สิ่งที่คนหมู่มากต้องการ ค้นหาๆกันต่อไป และท้ายที่สุด คุณอาจจะค้นพบว่าไม่จำเป็นต้องหาสินค้าที่ปังๆมาขายหรอก แค่สินค้าที่ขายได้เรื่อยๆ แต่คุณมีสินค้า 100 ชนิดที่ขายได้เรื่อยๆ ในทุกวัน? นี่ก็เป็นอีกหนทางที่จะจะทำให้คุณร่ำรวย ไม่ใช่หรือ หนทางมันไม่ได้มีเส้นเดียว เส้นทางสู่การเป็นเศรษฐี มันก็เหมือนศิลปะแขนงหนึ่งนะแหละ คือมันไม่มีอะไรเป๊ะๆ  การเดินทางไปสู่ความร่ำรวย ก็เหมือนกับการค้นหาตนเองนะแหละจ้า คุณต้องใช้เวลาคิด ใช้เวลาหา อย่าไปหวังว่าสินค้าตัวเดียวจะทำให้คุณรวยคุณปังได้ คนที่รวยๆนะ เขาผ่านอะไรๆต่อมิอะไรมาเยาะมาก กว่าเขาจะค้นพบเส้นทางของตนเอง  คือให้คุณนั่นแหละ ค่อยๆ คลำค่อยๆ หา ค่อยๆจับทางของตนเอง จนกว่าคุณจะเจอทางของคุณเอง ขอให้โชคดี ขอให้ปังขอให้รวยในปี 2018 กันทุกคนค่ะ

 เพจ: https://www.facebook.com/pg/ibodythailand/photos/?tab=album&album_id=748093118708316